ชีวิตวัยเยาว์ ของ คิม จ็อง-อิล

แรกเกิด

รายละเอียดเกี่ยวกับการเกิดของคิม จ็อง-อิลแตกต่างกันไปตามแหล่งข้อมูล บันทึกโซเวียตแสดงให้เห็นว่าเขาเกิดในหมู่บ้านวยัตสโคเย (Vyatskoye) ดินแดนฮาบารอฟสค์ (Khabarovsk) สหภาพโซเวียต เมื่อค.ศ. 1941[12] มีชื่อเมื่อแรกเกิดว่า ยูริ อีร์เซโนวิช คิม (Yuri Irsenovich Kim; รัสเซีย: Юрий Ирсенович Ким) เป็นบุตรชายคนโตคนแรกของนายคิม อิล-ซ็อง (เกาหลี: 김정일) กับนางคิม จ็อง-ซุก (เกาหลี: 김정숙) คิม อิล-ซ็อง ผู้เป็นบิดา ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองพันที่ 1 แห่งกองพลน้อยโซเวียตที่ 88 อันประกอบด้วยชาวจีนและเกาหลีพลัดถิ่น แห่งกองทัพแดง (Red Army) ของสหภาพโซเวียต เพื่อต่อสู้กับการรุกรานแมนจูเรียของจักรวรรดิญี่ปุ่น ในช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2 (Second Sino-Japanese War) คิม จ็อง-อิล มีน้องชายมารดาเดียวกันอีกหนึ่งคนคือ คิม มัน-อิล (เกาหลี: 김만일) หรือ คิม ชูรา (Kim Sura; เกาหลี: 김슈라) เกิดเมื่อปีค.ศ. 1944 และน้องสาวหนึ่งคนคือ คิม กยอง-ฮี (เกาหลี: 김경희)

ชีวประวัติอย่างเป็นทางการของคิม จ็อง-อิล[13] ซึ่งแต่งโดยรัฐบาลเกาหลีเหนือในสมัยต่อมา ระบุว่าเขาเกิดในค่ายทหารลับบนภูเขาแพกตู (Baekdu Mountains) ในเกาหลีของญี่ปุ่น จังหวัดรยังกัง ประเทศเกาหลีเหนือในปัจจุบัน เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1942[14] นักชีวประวัติทางการอ้างว่า การเกิดของเขาที่ภูเขาแพกตูมีลางบอกเหตุเป็นนกนางแอ่น และป่าวประกาศโดยการปรากฏขึ้นของรุ้งกินน้ำสองสายเหนือยอดเขาและดาวดวงใหม่ในสรวงสวรรค์[15]

ใน ค.ศ. 1945 ขณะที่คิมอายุได้สามหรือสี่ปี (ตามปีเกิดของเขา) เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงและเกาหลีได้รับเอกราชคืนจากญี่ปุ่นอีกครั้งหนึ่ง บิดาของเขากลับไปยังเปียงยางในเดือนกันยายนปีนั้นเพื่อเข้าดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำของเกาหลีเหนือ และปลายเดือนพฤศจิกายน คิม จ็อง-อิล จึงได้เดินทางกลับสู่เกาหลีตามบิดาของตนโดยเรือโซเวียต ซึ่งขึ้นฝั่งที่ซอนบอง ครอบครัวย้ายเข้าไปในบ้านพักของอดีตเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น พร้อมกับสวนและสระน้ำ น้องชายของคิม จ็อง-อิล "ชูรา" คิม (คิม พยองอิล แต่รู้จักโดยชื่อเล่นภาษารัสเซียของเขา) จมน้ำที่นั่นใน ค.ศ. 1948 รายงานไม่ยืนยันแนะว่า คิม จ็อง-อิลวัยห้าขวบอาจเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุนั้น[16] นางคิม จ็อง-ซุก มารดาของคิม จ็อง-อิล เสียชีวิตจากการคลอดบุตรคนที่สี่ เมื่อค.ศ. 1949[17] รายงานไม่ยืนยันระบุว่า มารดาของเขาอาจถูกยิงและถูกทิ้งให้เลือดไหลจนเสียชีวิต[16]

การศึกษา

คิม จ็อง-อิลใน ค.ศ. 1947 วัย 5 หรือ 6 ขวบ

ตามชีวประวัติอย่างเป็นทางการ คิมสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานระหว่างเดือนกันยายน ค.ศ. 1950 และสิงหาคม ค.ศ. 1960 ในกรุงเปียงยาง ซึ่งขัดแย้งกับนักวิชาการต่างชาติ ซึ่งเชื่อว่าเขาน่าจะได้รับการศึกษาช่วงต้นในสาธารณรัฐประชาชนจีนมากกว่า เพื่อประกันความปลอดภัยของเขาระหว่างสงครามเกาหลี[18]

ตลอดการศึกษาในโรงเรียน คิมเกี่ยวข้องกับการเมืองอยู่เสมอ เขาเข้าร่วมในสหภาพเด็ก[19] และสันนิบาติเยาวชนประชาธิปไตยแห่งเกาหลีเหนือ เข้าร่วมในกลุ่มศึกษาทฤษฎีการเมืองมากซิสต์และวรรณกรรมอื่น ๆ ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1957 เขาเป็นรองประธานสาขาสันนิบาติเยาวชนประชาธิปไตยของโรงเรียนมัธยมต้น เขาดำเนินตามโครงการต่อต้านการถือพวกพ้องและพยายามกระตุ้นการศึกษาอุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในบรรดาเพื่อนร่วมชั้นของเขา

คิมยังกล่าวกันว่าได้รับการศึกษาภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยมอลตาในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1970[20] ช่วงวันหยุดที่ไม่บ่อยครั้งนักในมอลตาในฐานะแขกของนายกรัฐมนตรีดอม มินทอฟฟ์[21]

หลังจากที่มารดาของคิม จ็อง-อิล เสียชีวิตไป คิม อิล-ซ็อง ผู้เป็นบิดาได้สมรสใหม่กับนางคิม ซ็อง-แอ (เกาหลี: 김성애) จากการสมรสครั้งใหม่ของบิดา คิม จ็อง-อิล มีน้องชายต่างมารดาอีกสองคน หนึ่งในนั้นคือ คิม พย็อง-อิล (เกาหลี: 김평일 ตั้งตามชื่อน้องชายที่จมน้ำเสียชีวิตของคิม จ็อง-อิล) นับแต่ ค.ศ. 1988 คิม พย็อง-อิลได้รับราชการในสถานทูตเกาหลีเหนือหลายแห่งในยุโรปและปัจจุบันเป็นเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำโปแลนด์ นักวิจารณ์ต่างประเทศสงสัยว่าคิม พยองอิลถูกบิดาส่งไปรับตำแหน่งห่างไกลเหล่านี้เพื่อป้องกันการแก่งแย่งอำนาจระหว่างบุตรชายทั้งสอง[22]

แหล่งที่มา

WikiPedia: คิม จ็อง-อิล http://www.theage.com.au/news/North-Korea/North-Ko... http://usgovinfo.about.com/library/weekly/aankorea... http://www.atimes.com/atimes/Japan/FL16Dh02.html http://www.atimes.com/atimes/Korea/FB14Dg04.html http://www.atimes.com/atimes/Korea/GF04Dg03.html http://www.atimes.com/atimes/Korea/IA04Dg02.html http://nk.chosun.com/english/news/news.html?ACT=de... http://transcripts.cnn.com/TRANSCRIPTS/0607/05/i_i... http://www.country-studies.com/north-korea/agricul... http://www.csmonitor.com/2005/0602/p07s02-woap.htm...